วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Phillips AirFryer รีวิวการใช้งานแบบตรงจุด

              ที่บ้านทานอาหารสุขภาพจริงจังมาตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ค่ะ ก่อนหน้านั้นกินมาหลายตำรับหลายสูตร Dukan เมนูลดน้ำหนัก งดข้าวมื้อเย็นกินแต่ผลไม้ สูตร 7 วัน สูตรล้างพิษ 10 วัน กินชงๆยี่ห้อต่างๆ น้ำหนักโยโย่ขึ้นๆ ลงๆ โหมออกกำลังกายจนวันนึงร่างกายรับไม่ไหวถึงแม้จะไม่กินอะไรเลยกินแต่น้ำหลายวันน้ำหนักก็ไม่ยอมลง (วันนี้ไม่เจาะลึกเรื่องลดน้ำหนักเอาเป็นว่าค่อยเล่าต่อวันหลัง) สรุปคือผ่านมาเยอะเจ็บมามากทำอะไรไม่ถูกหลักขอแค่น้ำหนักตราชั่งลง มีช่วงนึงรู้สึกไม่ไหวละคิดว่าจะไม่ทำอะไรที่เป็นการฝืนทรมาณทรกรรมร่างกายอีกอยากมีร่างกายที่แข็งแรงช้าแต่ชัวร์ไม่มั่วนิ่ม เดินสายกลางยึดหลักทำแล้วต้องไม่เครียดไม่มีชีทเดย์ไม่อดเมื่อหิวแบ่งเป็นมื้อย่อยๆ และเน้นทานอาหารไทยรสปานกลางเพื่อสุขภาพแบบที่ถนัด (คุยกับที่บ้านเค้าก็เห็นด้วย หาพวกได้ครบเราก็โล่งละเพราะทำอาหารทีเดียวทานด้วยกันทั้งบ้าน)


   
             เกริ่นอีกนิดรายละเอียดที่รวบรวมขึ้นเป็นการเขียนหลังจากได้ใช้งานเข้าเครื่อง Phillips AirFryer ประมาณ 10 วันเกือบ 30 เมนูแต่ไม่ได้ถ่ายไว้ทั้งหมดเพราะลืมได้ผ่านการใช้งานทั้ง 2 เจเนอเรชั่นรุ่นพ่อแม่และเราเอง รวมถึงการหาข้อมูลจากพนักงานขาย+ในอินเตอร์เน็ต+เว็บ Pantip ที่สำคัญได้รับคำแนะนำจากคุณน้ำ @Narm Prasopchok เริ่มเลยไม่รอช้า







ประสิทธิภาพ (ทอดอะไรอร่อย)

           สำหรับคนที่มีใจเอนเอียงอยากซื้อคงอยากรู้รายละเอียดส่วนนี้ที่สุด ขอบอกว่าคนที่ใช้เครื่องนี้ไม่จำเป็นต้องทานอาหารคลีนอาหารสุขภาพเพราะ Phillips AirFryer เหมาะกับการทอดอาหารที่มีไขมันแทรกอยู่ในเนื้อจำพวกอาหารแช่แข็งได้ดีเช่น นักเก็ตไก่ เฟรนซ์ฟราย หรืออาหารดัดแปลงตัดแต่งไส้กรอกอีสาน เบคอน และยังสามารถใช้ลมทอดหมูสามชั้นให้เป็นหมูกรอบที่กรอบนานโดยไม่ต้องทนน้ำมันกระเด็นใส่ระหว่างทอดอีกด้วย
           สำหรับแป้งเองได้ลองทอดอาหารที่มีความมันในตัวเช่น ปีกไก่กลาง น่องไก่ทอด ปลาสลิด ปลาทู หมูที่ติดส่วนกระดูกอ่อนเอ็นอ่อน ทอดของพวกนี้ได้อร่อยดีประหนึ่งใช้น้ำมัน


ตัวหม้อทอด
           หม้อทอดขนาดเล็กเป็นได้ทั้งข้อดีข้อเสีย ข้อดีจับถนัดมือไม่หนักเท่าไหร่ชวนให้อยากใช้งานดึงออกดันเข้าง่ายไม่ยาก ข้อเสียสำหรับเราใส่ของได้น้อยชิ้นไม่จุใจ ถ้าใส่เยอะชิ้นอาหารซ้อนกันต้องหมั่นพลิกหมั่นกลับด้านสมาชิกเยอะยิ่งใช้เวลานาน
           ตะแกรงช่วยให้ลมวิ่งผ่านทำให้อาหารสุกทั้งด้านบนและล่างโดยไม่ต้องกลับด้านแต่ถ้าอยากได้ความกรอบเกรียมก็ต้องกลับอยู่ดี ต้องมีตัวช่วยบางเมนูติดตะแกรง





ลม+ความร้อน
           ร้อนเร็วไม่ต้องรออุ่นเตาวอร์มเตานานประหยัดเวลา
           ลมร้อนช่วยให้อาหารสุกทั้งบนและล่าง สุกเร็วตามวัตถุดิบไม่ได้เร็วกว่าการทำอาหารด้วยวิธีอื่นมากนัก ชอบตรงรีดน้ำมันออกจากอาหารได้เยอะกว่าเตาอบและฝาอบลมร้อน
           ขดลวดด้านบนถอดล้างไม่ได้ เมื่อหม้อทอดมีขนาดเล็กขดลวดตัวนี้จะอยู่ใกล้กับอาหารเมื่อใช้ไปนานๆ จะมีคราบน้ำมันสะสม





ควัน+กลิ่น+เสียง
            ควันไม่มีแต่มีกลิ่น กลิ่นอาหารออกมาจากด้านหลัง ควรวางเครื่องไว้ในที่ๆ มีการระบายอากาศดีๆ เราลองเอามาวางไว้ในบ้านช่วงที่ยังจัดพื้นที่ในครัวไม่ลงตัวกลิ่นคลุ้งเต็มบ้าน
            เสียงเครื่องระหว่างทำงานดังรบกวนนิดๆ




อุปกรณ์เสริม
           สำหรับทอดปลาหรืออาหารที่ติดตะแกรงจำเป็นอย่างมาก รองด้วยฟรอยหรือกระดาษรองอบก่อนพอสุกสักพักก็สามารถทอดต่อบนตะแกรงได้

สะดวก
           ถ้าเรียนรู้เวลาที่เหมาะสมกับอาหารแต่ละชนิดการใช้งานก็จะง่ายมาก สามารถไปทำอย่างอื่นแค่เพียงกะเวลาโดยไม่ต้องยืนคุมอยู่หน้าเตาตลอดเวลา น้ำมันไม่กระเด็นโดนตัว
           การจับเวลาและอุณหภูมิมักใช้ในช่วง 180-200 c พนักงานขายแจ้งมาว่าการใช้งานลูกบิด (รุ่นที่เราซื้อ) ไม่ควรบิดเวลาเกินแล้วหมุนกลับควรตั้งเวลาที่พอดีๆ ถ้ายังไม่สุกกรอบแบบที่ชอบค่อยๆ เพิ่มเวลา ทำแบบนี้เพื่อช่วยยืดการใช้งานของตัวลูกบิด ส่วนตัวเองเวลาที่ได้ใช้งานเตาอบต่างๆ ก็ไม่ได้บิดเกินไว้เยอะอยู่แล้วตรงนี้เลยไม่ซีเรียสเท่าไหร่ค่ะ



รสชาติ
          อยู่กึ่งกลางระหว่างการทอดด้วยน้ำมันกับการย่างในเตาอบ มีความฉ่ำในเนื้อบ้างแต่ไม่อมน้ำมันและยังรีดน้ำมันออกจากเนื้อด้วยถ้ามีหนังก็กรอบดีกรอบนาน


สรุป เหมาะกับใครไม่จำเป็นสำหรับใคร
          เหมาะกับคนที่ชอบทานของกรอบๆ ชอบทำอาหารเอง (สำหรับคนที่ทานอาหารสุขภาพการใช้งานกับเนื้อสัตว์ที่มีความมันในตัวทำให้อาหารอร่อยขึ้นมาก ส่วนอกไก่เราค้นพบว่ารวนในกระทะอร่อยกว่าหรือใช้สูตรหมักไก่ให้เข้าเนื้อจะได้ไก่ย่างเมื่อทำในหม้อทอด ขึ้นอยู่กับการหมักค่ะหมักเกลือพริกไทยซีอิ๊วขาวเล็กน้อยหนังจะกรอบ ส่วนหมักน้ำมันหอยหมักซอสเทอริยากิจะเป็นการย่างและอีกวิธีที่ดีมากๆ คือสับปรุงรสปั้นทอดในหม้อทอด) ถ้าคิดทำเมนูจำพวกกระเทียมพริกไทย ผัดพริก ผัดน้ำมันหอย ทำซอสราดเมนูพวกนี้เนื้อสัตว์ให้สุกในหม้อทอดแล้วยังต้องมาปรุงรสทำน้ำราดในกระทะต่ออีกครั้ง
          สาเหตุหลักที่ทำให้อยากซื้อเจ้าเครื่องนี้ที่สุดคือปลาทอดค่ะเสียเวลากับการแล่ปลาเพื่อให้เนื้อปลาสามารถทอดบนกระเทฟลอนได้ พ่อแป้งต้องยืนเมื่อยและเสี่ยงต่อมีดบาดอีกแล้วยังไม่ค่อยอร่อยเพราะจี่บนกระทะมันไม่ตรงใจแบบที่ชอบ หาข้อมูลเยอะมากเพื่อหาสิ่งที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ดีใจที่เจอเจ้าเครื่องนี้ค่ะ ทอดปลาได้ดีชุ่มฉ่ำหนังด้านนอกไม่กรอบไม่หอมแบบทอดน้ำมันในกระทะหรอกนะคะแต่นี่คือสิ่งที่เรารับได้มากกว่าปลานึ่ง ปลาจี่ ปลาทอดบนเทฟลอนแข็งๆแห้งๆ
          ไม่จำเป็นเลยสำหรับคนที่ไม่พิศวาสอาหารทอด ปิ้ง ย่าง เพราะก่อนหน้านี่แป้งก็รวนไก่ ทอดทอดมัน ผัดกุ้ง ผัดผัก ต้มผัก ด้วยน้ำซุปค่ะไม่ได้ใช้น้ำมันหรือน้ำมันน้อยก็อร่อยพอตัวนานๆ ทีก็ไปย่างไปอบบ้างแค่เราต้องเลือกวิธีการที่เหมาะสมเครื่องเทศและการใช้วัตถุดิบสดใหม่ก็ทำได้ดีได้อร่อยได้สุขภาพไม่แพ้กัน

***ทุกเมนูทำด้วยเครื่อง Phillips AirFryer ค่ะ



 

วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Nutella Chewy Mega Cookies ตกแต่งเป็น Rilakkuma

             สวัสดีค่าาา หายไปนานเลยวันนี้กลับมาด้วยซอฟท์คุกกี้เหนียวหนึบน่ารักๆ คุกกี้นิ่มชิ้นโตชิ้นเดียวอิ่ม 555 ไม่รอช้าละมาดูกันเลยดีกว่า

             คุกกี้ตัวนี้อร่อยนะคะไม่ขมเลยเห็นสีเข้มๆ มาจากส่วนผสมน้ำตาลทรายแดงและนูเทลล่าค่า ชอบทานนูเทลล่ากันมั้ย เอามาจิ้มกับขนมปังก็อร่อย เอามาทำขนมก็อร่อย แต่แป้งชอบเอานิ้วจิ้มดูด 555 อร่อยสุด ลืมถ่ายกระปุกนูเทลล่าคู่กับคุกกี้เลย เอาเป็นว่าจะเขียนขั้นตอนในการทำอย่างละเอียดแทนนะคะเอารูปตอนเสร็จมาให้ดูกันก่อน ^ ^



              โดยส่วนตัวรู้สึกว่าคุกกี้สูตรนี้ค่อนข้างมีรสชาติหวาน ถ้าทานคู่กับนมแก้วโดๆ จะพอดีมากๆ แต่ถ้าไม่ชอบชอบทานแบบแพลนก็สามารถลดน้ำตาลทรายขาวจากสูตรได้ค่ะ ไม่ควรลดน้ำตาลทรายแดงเพราะจะทำให้คุกกี้หนึบน้อยลง หลายคนอาจจะชอบคุกกี้เนื้อนุ่มๆ แป้งอยากให้ลองคุกกี้แผ่นบางเนื้อหนึบเคี้ยวมันดูบ้างนะคะอาจติดใจรสสัมผัสแบบนี้บ้างก็ได้



ส่วนผสม (ที่เอาสูตรนี้มาฝากกันเพราะมันง่าย อร่อย ส่วนผสมหาได้สะดวก ยิ่งอบเสร็จออกจากเตาแล้วทานเลยยิ่งอร่อยมากกกก ไม่เชื่อต้องลอง)
- เนยจืดนิ่ม              115 กรัม  (ใช้เนยเค็มก็ได้ค่ะตัดเกลือออกด้วยนะคะ)
- นูเทลล่า                100 กรัม
- น้ำตาลทรายขาว   90 กรัม (ไม่ชอบกวานลดลงได้สัก 20-30 กรัม)
- น้ำตาลทรายแดง   90 กรัม
- ไข่ไก่                     1 ฟอง
- กลิ่นวนิลลา           1/2 ช้อนชา (ใช้กลิ่นช็อคโกแลตก็ได้ค่ะ)
- แป้งเอนกประสงค์ 150 กรัม
- เบคกิ้งโซดา          1 ช้อนชา
- เกลือ                     1/4 ช้อนชา (แป้งใช้ดอกเกลือจากปราณบุรี)
- Semi Sweet Chocolate Chip    1/3 ถ้วย (ปรับสูตรเป็นดาร์คช็อคโกแลตหั่นชิ้นเล็กๆก็ได้ค่ะ หากชอบให้มีรสขมตัดกัน)

              ก่อนหันไปทำอย่างอื่นให้เตรียมนำเนยออกมาวางพักอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงให้เนยหายเย็นเป็นเนยอุณหภูมิห้อง ระวังนะคะหากพักเนยไว้นานในวันที่อากาศร้อนจนเนยละลายคล้ายน้ำมันจะคุกกี้ออกมาไม่เป็นไปตามสูตร เปิดเตาอบที่ 180 C


              วิธีทำ
              นำแป้งเอนกประสงค์ เบคกิ้งโซดามาร่อนเข้าด้วยกันแล้วพักไว้ ใส่เกลือตามลงไปหากใช้เนยจืด

              ตีเนยอุณหภูมิห้องจนขึ้นฟูใส่น้ำตาลทั้ง 2 ชนิดลงไปตีต่อวื้ด วื้ด..

              ตอกไข่ใส่ถ้วยใช้ไข่ใหม่สดนะคะ ตามด้วยวนิลลา ค่อยๆ เทลงไปในส่วนผสมเนยน้ำตาลตีให้เข้ากัน

              ถึงขั้นตอนสำคัญพระเอกของเรา ใส่นูเทลล่าาาาลงไปตีต่อ

              หยุดเครื่องตีขั้นตอนนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องตีแล้วค่ะระวังนะเทพรวดไปทีเดียวฟุ้งกระจายเต็มหน้าและคนแป้งกับส่วนผสมให้เข้ากันยาก ใช้ไม้พายคนแป้งที่ร่อนไว้ให้เข้ากันค่อยๆ แบ่งแป้งเป็น 3 ส่วนใส่ไปทีละส่วน

              สุดท้ายตามด้วยช็อคโกแลตที่ชอบคลุกส่วนผสมห้เข้ากันอีกนิดเป็นใช้ได้ <3         
           
 

                แป้งตั้งใจทำเป็นคุกกี้ชิ้นใหญ่ยักษ์เลยใช้ที่ตักคุกกี้เส้นผ่านศุนย์กลางขนาด 2 นิ้วฝ่า ถาดนึงอบได้แค่ 6 ชิ้นนะคะเวลาวางคุกกี้ให้วางห่างกันเยอะหน่อยน้าาเพราะคุกกี้เค้าจะใหญ่และบานมากกกกกกก

               จากนี้ไปรูปเยอะหน่อยน้า เห่อกล้องใหม่ หุหุ เมื่อได้โดว์คุกกี้แล้วก็โยนเข้าเตาไปเลย!!!




               
                   อบคุกกี้ชิ้นโตประมาณ 18 นาทีค่ะ ด้านนอกจะกรอบด้านในเหนียวหนึบ ไม่ควรอบนานไปเพราะจะขาดอรรถรสในการกิน คุกกี้สูตรนี้ได้คุกกี้ชิ้นมหึมามโหฬารบานตะไทใหญ่กว่าฝ่ามือ 10 ชิ้นค่ะ ใครใคร่ทำชิ้นเล็กกว่านี้คงต้องไปนับเองน้าว่าได้กี่ชิ้น               




                                                                 
                                                                   เยิ้มๆ ยืดๆ หนุบหนับ


               
                  หลังนำออกจากเตาให้พักไว้บนถาดก่อนประมาณ 10 นาทีเพื่อให้คุกกี้ที่เพิ่งเปลี่ยนอุณหภูมิอยู่ตัวถ้าย้ายคุกกี้มาวางพักบนตะแกรงทันทีจะทำให้คุกกี้แยกออกเป็นชิ้นๆ 


           
              คุกกี้ที่แหว่งไปผ่านการชิมเรียบร้อย เขมือบเกือบหมดชิ้นนี่ยังเรียกว่าชิมอยู่มั้ยคะ :-P ถ้าชอบคุกกี้ชิ้นเล็กให้ใช้ช้อนตักคุกกี้เป็นขนาดเท่าๆ กัน ลดเวลาอบลงเหลือสัก 10 นาทีอาจต้องทดลองเวลาอบเองเพราะเตาแต่ละตัวไม่เหมือนกันสักทีเดียว อ้อ!! แล้วรสนิยมในการทานคุกกี้ด้วย บางคนชอบเยิ้มมาก เยิ้มน้อยก็เพิ่มเวลาอบให้นานขึ้นอีก 1-2 นาที





             หน้าตาเป็นแบบนี้แบนๆ บานๆ หายร้อนแพ็คใส่ถุงแก้วเตรียมแจก อร่อยมากขอบอกกกก ควรทานให้หมดภายใน 3 วัน จริงๆ ไม่ต้องบอกก็ได้มั้งเพราะทานแล้วหยุดไม่ได้ 5555















***แป้งตกแต่งให้น่ารักน่าเคี้ยวขึ้นด้วยฟองดองค่ะ น่ารักเนอะ >o<



หม่ำๆ กันค่ะ ^___________^ หวังว่าคุกกี้สูตรนี้จะถูกใจนะคะ

วันเสาร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2557

เม็ดขนุน หอม มัน หวานเบาเบา

             ต้นเหตุที่ทำให้แป้งอยากทำเม็ดขนุนเพราะคุณพ่อชอบค่ะ และที่ร้านแป้งหอมเบเกอร์รี่มักมีไข่แดงเหลืออยู่เสมอเนื่องจากทำคุกกี้รอยัลไอซิ่งให้กับลูกค้าบ่อยๆ ครั้นจะเอาไข่แดงมาทำทานเองมากๆ เข้าก็ทานไม่ไหวค่ะกลัวคอเลสเตอรอลพุ่งสูงเลยคิดวิธีแจกจ่ายและทำเก็บเอาไว้ทานกันในครอบครัว (ที่สำคัญทำแต่ฝอยทองเริ่มไม่ตื่นเต้นละเราทำได้แล้วนิ เลยต้องหาของยากเลเวลสูงกว่ามาปะฝีมือกันสักหน่อย)
 



               ดูจากรูปนี่เม็ดขนุนอวบอิ่มมากเลยเนาะ 555 เพิ่งปั้นครั้งแรกค่ะทำแบบไม่กลัวขาดทุนกันเลย ขนาดพ่อแป้งบอกแล้วนะคะว่าลูกใหญ่ไป หลังจากทำเสร็จญาติๆ ได้ทานมีแต่คนบอกว่าลูกใหญ่ไปป่าวว ถ้าทำขายต้องเล็กลงหน่อยนะ เดี๋ยวขายไม่ได้ราคาและทุกคนก็ชมว่าอร่อย เนื้อเนียน หวานเบา มีกลิ่นหอมคลุ้งในปากไม่เหม็นหืนกลิ่นถั่ว ที่สำคัญเม็ดขนุนต้องบินได้ค่ะ เม็ดขนุนวัดกันที่ปีกค่ะการทำปีกได้ไม่ใช้เรื่องยากแต่ก็ไม่ง่ายนักต้องอาศัยการฝึกฝนและความใจเย็นมากๆ ตรงนี้แป้งมีเคล็ดลับค่ะแล้ววันนี้ก็จะเอามาบอกกันด้วยที่นี่


เนื้อเนียน - ล้างหลายน้ำและแช่ถั่วเขียวซีกหรือเรียกอีกอย่างว่าถั่วทองในน้ำสะอาดประมาณ 6 ชั่วโมง เพื่อให้ง่ายต่อการบดให้ละเอียด วิธีบดที่ดีคือบดแห้งไม่ต้องเติมน้ำลงไปนะคะ หรือใครสะดวกใช้ครกตำก็ใช้ได้เช่นกันค่ะ
หวานเบา - ลดน้ำตาลลงค่ะ ใช้ความหวานเท่าที่จำเป็นทำให้สามารถทานขนมได้เรื่อยๆ ไม่หวานแสบคอ
กลิ่นหอม - สูตรนี้มีทั้งกลิ่นควันเทียน กลิ่นกะทิ ใบเตย กลิ่นดอกไม้หอม
ไม่มีกลิ่นหืน - ถั่วผ่านการแช่น้ำหลายชั่วโมงจะเกิดฟองและกลิ่นต้องล้างน้ำให้สะอาด
ปีกเม็ดขนุน - ปล่อยเม็ดขนุนลงไปตรงๆ ด้วยส้อม ช้อนหรือนิ้วมือของเราบนน้ำเชื่อมที่มีความข้นที่พอดี


มาเริ่มลงมือทำกันเลยนะคะ (สูตรนี้ปั้นลูกใหญ่แบบแป้งจะได้ประมาณ 120 ลูกค่ะ)
เนื้อถั่ว
ถั่วเขียวซีก 500 กรัม (ทำครั้งแรกถ้ากลัวเยอะไปลดปริมาณลงครึ่งนึงพอค่ะ ส่วนผสมอื่นก็จับหารสอง)
น้ำตาลทราย 320 กรัม
กะทิอบควันเทียนดอกไม้หอมตราอร่อยดี 1 กล่อง(หรือจะใช้กะทิคั้นเติมกลิ่นแล้วอบควันเทียนก็ได้)
น้ำกะทิเข้มข้นหรือวิปปิ้งครีม 150 กรัม (ถ้าวิปปิ้งครีมมีรสชาติหวานให้ลดน้ำตาลลง 20 กรัม)
เกลือป่น 2 หยิบมือ
ไข่แดงประมาณ 20 ฟอง
สีผสมอาหารสีไข่ไก่เล็กน้อย

น้ำเชื่อม (น้ำเชื่อมจะงวดไปเรื่อยๆ ระหว่างทำสามารถเติมน้ำได้ค่ะ) 
น้ำเปล่า 1 ลิตร
น้ำตาลทราย 900 กรัม
ใบเตยหอม 5 ใบ




แช่ถั่วเขียวซีกไว้ประมาณ 6 ชั่วโมง ล้างให้สะอาดแล้วนำมานึ่งในซึ้งประมาณ 20-25 นาที ไฟกลาง




**บดถั่วแบบเติมน้ำกะทิลงไปด้วยไม่ละเอียด เหนียวแน่น ปั่นยากมากให้ทำตามวิธีด้านล่างค่ะ




บดถั่วให้ละเอียด (โดยไม่ต้องเติมอะไรลงไป)





นำถั่วที่นึ่งไว้ปั่นเสร็จแล้วตั้งไฟกลางค่อนไปทางเบาคนไปเรื่อยๆ เติมน้ำตาล น้ำกะทิหรือวิปปิ้งครีม และเกลือ ขั้นตอนนี้ถั่วสุกอยู่แล้วนะคะ เราสามารถปรุงแต่งรสได้ชิมได้ตามชอบ





กะทิกล่องที่ใช้วันนี้ หอมมั๊ก ^_^ ไม่ค่อยเจ้มจ้น ในตู้เย็นแป้งมีวิปปิ้งครีมอยู่งานนี้ขอดัดแปลงใช้ตัวนี้นะคะ



        กวนจนกอดกันเป็นก้อน (แป้งใช้หม้อไฟฟ้ากวนประมาณ 25 นาทีค่ะ ระวังไม่ควรกวนจนแห้งไป) 






วิธีปั้นดูจากในรูปเลยค่ะ กดให้แบนเล็กน้อย ปั้นเสร็จพักไว้ ถ้าลมแรงหาผ้าหรือถุงพลาสติกสะอากมาปิดไว้นะคะกันเนื้อแห้ง





ทำน้ำเชื่อม มัดใบเตยใส่ลงไปหลังจากน้ำตาลละลายหมด ใช้ไฟอ่อนนะคะ เมื่อน้ำเชื่อมเดือดดีและหอมกลิ่นใบเตยแล้วให้ตักออก จากนั้นเคี่ยวน้ำตาลต่ออีสักพักจนได้ความข้นงวดและเดือดแรงขึ้น จากนั้นตักแบ่งน้ำเชื่อมขึ้นมาในถาดเล็กน้อย น้ำเชื่อมส่วนนี้เอาไว้หล่อขนมเม็ดขนุนตอนนำขึ้นมาพักก่อนพักบนตะแกรง ช่วยให้เม็ดขนุนไม่ติดกันและขึ้นเงาสวย




กรองไข่แดงเติมสีผสมอาหารเล็กน้อย แบ่งไข่แดงออกมานำเนื้อถั่วที่ปั้นพักไว้มาใส่ในไข่แดงเคลือบให้ทั่วนะคะ วิธีหยอดให้หยอดลงไปตรงๆ ปาดส่วนเกินก่อนด้วยค่ะ




ก่อนหยอดให้ปิดไฟหรือเบาไฟลง (ต้องการให้น้ำเชื่อมนิ่งเวลาปล่อยเม็ดขนุนลงไปปีกที่ได้จะสวยกว่า)




เปิดไฟเพื่อให้ไข่แดงและเนื้อถั่วได้สัมผัสดูดรสชาติของน้ำเชื่อมเหนียวข้นเข้าเนื้อ ต้องกลับด้านเม็ดขนุนด้วยนะคะ ด้านละ 2-3 นาที 




สังเกตว่าน้ำเชื่อมข้นขึ้นอีกนะคะ ถ้าข้นเกินไปเติมน้ำเปล่าได้ค่ะ




พักเม็ดขนุนในน้ำเชื่อม




ทยอยนำขึ้นมาพักไว้บนตะแกรงไล่น้ำเชิ่อมส่วนเกินออกจะได้ไม่หวานเกินไปพักไว้สักครู่ เราจะทานหลังจากพักไว้อย่างน้อย 30 นาทีค่ะเพื่อให้เวลาน้ำตาลรัดตัวและส่วนเกินหยดลงถาด


               เท่านี้ก็เสร็จค่ะ ใช้เวลาประมาณ  3 ชั่วโมงนิดๆ ในการทำ ช่วยกันทำในครอบครัวได้นะคะ แม่แป้งชอปปิ้งส่วนผสมนำถั่วไปแช่น้ำ ส่วนแป้งและพ่อช่วยกันปั้นและชุบไข่ เป็นขนมอีกหนึ่งเมนูที่อยากให้ลองทำค่ะ สงกรานต์นี้สามารถแบ่งหน้าที่กันและช่วยกันปั้นเนื้อถั่วเพิ่มความสนุกความกลมเกลียวของสมาชิกในบ้านได้เป็นอย่างดีเลยนะคะ ด้วยความที่ไม่หวานมาก ปั้นไป ชิมไป หยอดไป ป้อนกันไป

               เนื้อถั่วข้างในที่แป้งให้สูตรไว้ถ้าไม่อยากชุบไข่ เค้าก็คือขนมถั่วกวนดีๆ ที่เองค่ะ แตกต่างตรงเราปั้นเป็นลักษณะกลมแทนที่จะปั้นทรงรี




สวัสดีปีใหม่ไทย เดินทางไปเที่ยวพักผ่อนขอให้สนุกและปลอดภัยนะคะ        ^_^