วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ขนมปังในหม้อหุงข้าว Soft Apple Raisin Bread


ใครๆ ก็ชอบขนมปังนะคะ เพราะทานง่ายดีไม่หวานมากและพกพาสะดวก แต่น้อยคนที่คิดทำเองเพราะว่าไม่มีเตาอบใช่มั้ยคะวันนี้แป้งขอนำเสนอสูตรขนมปังที่นวดมือได้ไม่ยากและทดลองแทนเพื่อนๆ ด้วยการอบขนมปังในหม้อหุงข้าวให้ดูกันค่ะ 

ไม่เคยลองอบในหม้อหุงข้าวเหมือนกันนี่คือครั้งแรก ตื่นเต้นจังจะออกมาดีหรือเสียต้องทิ้งถังขยะกันนะ แป้งค้นในตู้เย็นปรากฎว่ามีแอ๊ปเปิ้ลเขียวอยู่เยอะมาก ไปแมคโครแล้วมีโปรซื้อ 1 แถม 1 ค่ะ ทานสดคงไม่ทันแน่อย่ากระนั้นเลยเอามาทำเป็นไส้ขนมปังดีกว่า ใช้เฉพาะแอ๊ปเปิ้ลเขียวก็กลัวจะเปรี้ยวเกินไปงั้นขอใส่ลูกเกดดำลงไปด้วยนะคะ พรุ่งนี้เช้าค่อยทำเพราะขนมปังเสียเวลารอค่อนข้างนานค่ะคืนนี้ดึกแล้ว


เหตุการ์ณที่คิดจะจำลองเกิดขึ้นจริงคือนึกอยากกินขนมปังเมื่อคืนและวางแผนจะทำรุ่งขึ้น อ้าวมานึกได้ว่าใช้เตาอบไม่ได้เพราะเอาฐานเตาไปให้ช่างอ๊อกเหล็กเพิ่มชั้นวางของระหว่างทำเปลี่ยนใจอบในเตาก็คงไม่ได้แล้ว โอเคงั้นถ้างั้นคงต้องลองกันสักตั้งแอ๊ปเปิ้ลเขียวพร้อม ลูกเกดพร้อม แป้งไรย์ดำพร้อม ทุกอย่างพร้อมงั้นอบขนมปังในหม้อหุงข้าวเลย(ชอบทานขนมปังใส่แป้งไรย์ดำค่ะ แป้งตัวนี้จะช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารและทำให้ขนมปังเราเหนียวนุ่มขึ้น)

มาดูสูตรกันค่ะ เป็นสูตรที่แป้งดัดแปลงมาจาำก Foodtravel
สูตรขนมปัง
1. แป้งขนมปัง 220 กรัม (ดัดแปลงใส่แป้งไรย์ดำครึ่งนึงค่ะ)
2. แป้งเค้กชนิดเบาพิเศษ 62 กรัม
3. ยีสต์ 8 กรัม
4. หางนมผง 12 กรัม
5. ผงแพตโก้-สาม 1/2+1/8 ช้อนชา (ไม่มีก็ไม่ต้องใส่ค่ะ แป้งก็ไม่ได้ใส่)
6. น้ำตาลทราย 55 กรัม
7. เกลือ 1/2+1/4 ช้อนชา
8. น้ำ 100 กรัม
9. ไข่ไก่ 1/2 ฟอง
10. ไข่แดง 1 ฟอง
11. กลิ่นนมเนย 1 ช้อนชา
12. เนยจืด 38 กรัม
วิธีทำ
- ร่อนแป้งขนมปัง แป้งเค้กชนิดพิเศษ หางนม และผงแพตโก้-สาม รวมกัน แล้วใส่ยีสต์ พักไว้
- ผสมน้ำ เกลือ น้ำตาล ไข่ไก่ ไข่แดง และ กลิ่นนมเนย คนให้ละลาย
- ใส่ส่วนผสมของ ของแห้งทั้งหมดลงในโถนวดให้ส่วนผสมพอเข้ากัน เอาขนมปังออกมานวดด้วยมือค่อยๆ เติมส่วนผสมของเหลวลงไปทีละน้อย นวดต่อให้เข้ากัน
- เติมเนยลงไป นวดจนส่วนผสมไม่ค่อยติดมือ มีความยืดหยุ่น ใช้เวลา 30 - 45 นาที
- นำแป้งขนมปังที่ได้พักไว้ในชามผสมที่ทาเนย พร้อมทั้งปิดด้วยPlastic wrap พักไว้ให้แป้งขึ้นตัว
- เมื่อแป้งขยายตัวแล้วเอา plastic wrap ออกแล้วชกแป้งไล่อากาศ
- รีดแป้งเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้า


ลองศึกษาวิธีนวดแป้งด้วยมือจากที่นี่รูปจาก Pantip คุณเจซองค่ะ





ไส้ขนมปัง (สูตรนี้ออกเปรี้ยวหน่อยนะคะ ถ้าชอบหวานเพิ่มน้ำตาลได้อีก 50 กรัมค่ะ)
1.แอ๊ปเปิ้ล 3 ลูก
2.ลูกเกดดำ 200 กรัม
3.น้ำตาลทราย 100 กรัม

- นำไปผัดบนกระทะใส่น้ำตาลจนความหวานซึมเข้าเนื้อแอ๊ปเปิ้ลและลูกเกดดำค่ะ ผัดเสร็จพักไว้สักครู่ระหว่างนี้รอขนมปังขึ้นฟูเต็มที่
- รีดขนมปังให้แผ่เป็นแผ่น วางไส้ทั่วๆ ม้วนขนมปังและหั่นตามขวาง
- ทาเนยที่หม้อหุงข้าว หั่นขนมปังเป็น 7 ท่อนวางเรียงกันในหม้อ


รูปนี้กำลังรอพักอีก 30 นาที
- พักขนมปังสัก 30 นาทีจนขึ้นฟูดี
- กดปุ่มสั่งทำปุ่มที่ใช้ของแต่ละเครื่องเขียนไม่เหมือนกันเอาเป็นว่าใช้ปุ่มที่เครื่องบอกรายละเอียดว่าสามารถทำทั้งขนมปังและเค้กได้นะคะ
- ประมาณ 1 ชั่วโมงถัดมาก็มากลับด้านค่ะ เพราะว่าด้านบนอาจจะยังสุกไม่ทั่วถึงอีกสัก 10-15 นาทีนะคะ

- จากนั้น
เอาก้นขาวๆ โชว์คว่ำออกมาแล้วไม่อยากหงายละ ราดไอซิ่งนิดนึงแว้บไปทำคัสตาร์ดราดอีกหน่อย (สูตรซอสคัสตาร์ดเอาไว้คราวหน้านะคะ บล็อกนี้ยาวมากกกกกแล้วค่ะ)

ไอซิ่งเกลซมาจาก น้ำหรือนม 1 ช้อนช้ากับน้ำตาลไอซิ่ง 3 ช้อนโต๊ะถ้าเหลวไปเติมน้ำตาลไอซิ่งอีกครึ่งช้อนโต๊ะค่ะ

คลิปขนมปังหม้อหุงข้าวจากญี่ปุ่นค่ะ




ไม่ต้องมีเตาอบก็ทำขนมปังกินได้เนาะ Soft Apple Raisin Roll ในหม้อหุงข้าว 

วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เค้กมะพร้าวอ่อน หอม เบา ชิ้นพอดีคำ

 เค้กมะพร้าวอ่อนที่แป้งกำลังลงสูตรให้ไม่มีหน้าครีมนะคะ เป็นเค้กที่ตกแต่งด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อนด้านบน รสสัมผัสเบานุ่มชวนฝันมากค่ะส่วนรสชาติหวานกำลังดีแถมสูตรนี้ใส่น้ำมะพร้าวอ่อนลงไปด้วยค่ะ อร่อยมากๆ

             ที่บ้านแป้งทั้งครอบครัวชอบทานน้ำมะพร้าวอ่อนมากค่ะ ซื้อมาทีเป็นทะลายเลยเอามาเฉาะเอง (คุณพ่อเฉาะค่ะ แหะแหะ)


รสอัญชัน ใช้น้ำอัญชันคั้นสดค่ะ

แป้งทำหลายครั้งทั้งทำแจกและทำขายที่ร้านแป้งหอมเบเกอรี่ค่ะ นี่โชว์หน้าตาเค้กนิดนึงผู้สูงอายุก็ทานได้ค่ะไม่ต้องกลัวครีมอีกต่างหาก แป้งชอบเค้กที่ไม่มีครีมค่ะ ทำแล้วสบายใจไม่กังวลเท่าเค้กครีมด้วยเพราะเสียยากกว่านิดนึงเก็บในตู้เย็นได้หลายวันค่ะ สูตรมาจาำที่นี่ค่ะ Baked By Pong

ส่วนผสมที่ 1

แป้งเค้ก 100 กรัม

ผงฟู 1 ½ ช้อนชา

น้ำตาลทรายป่น 70 กรัม

เกลือ ¼ ช้อนชา

ส่วนผสมที่ 2

ไข่แดงเบอร์ 0 จำนวน 6 ฟอง
น้ำมันพืช 55 กรัม (ใช้น้ำมันข้าวโพด)
น้ำมะพร้าวน้ำหอม 60 กรัม


ส่วนผสมที่ 3
ไข่ขาวเบอร์ 0 จำนวน 6 ฟอง
น้ำตาลทรายป่น 80 กรัม

ครีมออฟทาทาร์ ¼ ช้อนชา


วิธีทำ (ตามสูตรนี้แป้งทำได้ 2 ถาดค่ะ ถาดขนาด 6x10 นิ้ว)
1.ร่อนแป้ง ผงฟู น้ำตาล เกลือ สามรอบ ทำหลุมตรงกลาง
2.ไข่แดง น้ำมะพร้าว น้ำมันพืช คนให้เข้าเทลงในส่วนผสมที่ 1 ใช้ตะกร้อมือคนเร็วแรง ๆ ให้ส่วนผสมเข้ากัน พักไว้

3.ตีไข่ขาวด้วยหัวตีตะกร้อความเร็วสูงสุด 5 วินาที ใส่ครีมออฟทาทาร์ ใส่น้ำตาลส่วนที่ 3 ตีต่อให้ไข่ขาวตั้งยอดอ่อน ปิดเครื่อง

4.ตักแบ่งไข่ขาวครึ่งหนึ่ง ผสมกับส่วนผสมข้อ 2 โดยใช้ตะกร้อมือตะล่อมให้เข้ากัน ตักไข่ขาวส่วนที่เหลือผสมให้เข้ากันดี เทลงถาด

5.ใช้ที่ตัดรูปหัวใจตัดเนื้อมะพร้าว แล้วโรยเนื้อมะพร้าวอ่อนกระจายทั่วพิมพ์ 
6.นำเข้าอบไฟบนไฟล่าง อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ประมาณ 20 นาที หรือจนสุก 
7.ตัดชิ้นสี่เหลี่ยม 



รสวนิลลาหอมกลิ่นมะพร้าวและวนิลลาค่ะ


หอมกลิ่นใบเตยสดที่คั้นจากใบเตยหอมหน้าบ้านค่ะ

มีความสุขและทานของอร่อยๆ ด้วยกันนะคะ
             

วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ขนมฟักทองสูตรโบราณ

เมนูนี้เป็นเจได้ด้วย (ควันหลงเทศกาลกินเจ)
ขนมฟักทอง แบบโบราณ by Pawinee Ampunpong



ยังไม่หายร้อนก็ตักชิมก่อนเลย ^^


แป้งปรับสูตรเล็กน้อยตรงมะพร้าวค่ะ พอดีมีมะพร้าวอ่อนอยู่หลายลูกเลยหั่นเนื้อมะพร้าวเป็นชิ้นๆ ใส่ลงไปเลย กัดตรงไหนก็เจอมะพร้าวทุกคำใส่ไป 3 ลูกแหนะ 

สูตรขนมฟักทอง 
ฟักทองนึ่งบดให้ละเอียด 2 ถ้วยตวง 
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
แป้งมัน ¼ ถ้วย
น้ำตาล 1 ถ้วย
เกลือ ½ ชช.
กะทิคั้นข้น 2 ถ้วย
มะพร้าวคลุกเกลือเล็กน้อย
สำหรับโรยหน้า มะพร้าวขูดฝอย 50 กรัม

ง่ายมากกกกกกกกกกกกแต่อร่อยเกินความคาดหมาย นิ่มหนึบสู้ฟันชอบจังเลย



โอ้ววว ควันฉุย น่าทานสุดๆ


วิธีทำ 
1. ร่อนแป้ง2อย่างรวมกัน 
2. ใส่น้ำตาล+กะทิ+เกลือ คนให้น้ำตาลละลาย 
3. ใส่ฟักทองลงในกะทิ คนให้เข้ากัน 
4. ใส่แป้งที่ร่อนแล้วลง ผสมให้เข้ากัน 
5. ใส่มะพร้าว 50กรัม ลงผสม 
6. ตักนึ่งได้ค่ะ น้ำใส่ซึ้งนึ่ง ประมาณ3/4 ให้เดือดพล่านก่อน ใช้เวลา 15นาทีค่ะ

พอครบเวลาเปิดออกมาเป็นแบบนี้ไอร้อนขโมงเลย 


ลองทำดูนะคะง่ายไม่ต้องมีเตาอบ เพิ่งเปิดฝาซึ้งอดใจไม่ไหวหยิบทานเลยอร่อยมากๆ


พอหายร้อนแล้วจะแกะออกจากพิมพ์ได้ไม่ยากค่ะ 


**เจ้าของสูตรกระซิบบอกมาว่าสามารถดัดแปลงเป็นเป็นเผือกได้นะคะเพิ่มน้ำตาลซัก 30กรัมจากสูตรค่า

วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

น้ำสลัดไขมันต่ำสูตรญี่ปุ่นเข้มข้นอร่อย (น้ำสลัดผักครีม)

                 หากไม่ดูเป็นการรบกวน
                 ก็จะชวนเธอมากินผักกัน.. เพลงแสดงตัวแสดงอายุ เหออออ

                 น้ำสลัดสูตรนี้แม่บ้านญี่ปุ่นชอบมากนะคะ เพราะแคลอรี่ต่ำ มัน อร่อย หอมงาทำให้ทานผักได้เยอะเลยค่ะ วันรุ่งขึ้นสบายท้อง 555


              เดือนที่แล้วไม่มีเวลาเขียนเลยค่ะ อยากเขียนเยอะแยะหล่ะแต่เริ่มที่ไรมีงานแทรกเข้ามาทุกทีค่ะ น้ำสลัดสูตรนี้เป็นอีกสูตรที่แป้งชอบเวลาทำทานทีไรรู้สึกไปเองทุกทีว่า กำลังเอาของมีประโยชน์เข้าไปในร่างกายฉันเป็นคนรักสุขภาพ ฉันจะต้องผิวสวยแน่ๆ 555

             สูตรที่ให้ไปนี้สามารถดัดแปลงได้หลายแบบนะคะ ถ้าไม่ชอบสีดำใช้งาขาวได้เลยค่ะแล้วเราก็สามารถลดผักเพิ่มผักได้ตามชอบ ส่วนหลักที่ทำให้น้ำสลัดมีลักษณะเป็นครีมมาจากผักแครอทนึ่งและฟักทองนึ่งค่ะ เราสามารถแปลงเป็นอะโวคาโด ข้าวโพดฝักนึ่งก็ได้เช่นกัน มาดูสูตรน้ำสลัดไขมันต่ำสูตรญี่ปุ่นเข้มข้นอร่อยกันเลยยย ^_^ (สัดส่วนสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามชอบค่ะ)

น้ำสลัดครีมงา (ไม่เจนะคะ อยากเจต้องตัดกระเทียมออกค่า)


งาขาวคั่ว 30 กรัม (แป้งมีแต่งาดำ บางทีก้ใช้งาขาวกับงาดำค่ะ)


หอมหัวใหญ่ 2 หัว


แครอท ครึ่งหัวเล็ก


ฟักทอง 1 เสี้ยว (แป้งใช้ฟักทองญี่ปุ่นเกือบ 1/2 ลูก)


กระเทียม เล็กน้อย


น้ำมันพืช 1 ถ้วย (แป้งใช้น้ำมันข้าวโพด)


น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย (ใช้น้ำส้มสายชูกหมักข้าวหอมมะลิ)


โชยุ (ซีอิ๊วญี่ปุ่น) ปรุงรสตามชอบ (ใช้ซีอิ๊วขาวค่ะ)


น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ (ลดเพิ่มได้ตามชอบ)

ทุกอย่างปั่นรวมกัน ภาพล่างกลางงาดำผสมงาขาว ภาพล่างขวางาดำล้วนค่ะถ้าอยากยืดอายุให้เก็บได้นาน ปั่นเสร็จเอาลงไปทำให้สุกได้เลยเดือดปุดๆ เก็บได้เป็นอาทิตย์ ยังไงลวกภาชนะที่ใช้ใส่ด้วยจะเก็บได้นานขึ้นจ้า

              อร่อยแล้วยังดีสุขภาพด้วยนะคะ ที่สำคัญรสชาติไม่เลียนด้วยหล่ะ!!

วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ขนมกล้วยมะพร้าวอ่อน

        แป้งเคยเขียนบล็อกทำขนมกล้วยมาแล้วนะคะ ที่มาเขียนเพิ่มเติมตรงนี้เพราะว่ามีการดัดแปลงสูตรด้วยเปลี่ยนจากการใส่กะทิเป็นใส่นมถั่วเหลืองสูตรน้ำตาลน้อยแล้วเพิ่มมะพร้าวอ่อนลงไปด้วยค่ะ ไปดูสูตรเดิมกันได้ที่นี่
     
     สูตรขนมกล้วยมะพร้าวอ่อน(ทำได้ 22 ถ้วย)
  1. กล้วยน้ำว้า 10 ผล
  2. แป้งข้าวจ้าว 20 ช้อนโต๊ะพูนๆ 
  3. เกลือ 2 หยิบมือ
  4. นมถั่วเหลืองดีน่าข้าวญี่ปุ่นหวานน้อย 1 ถ้วยตวง (250 ml.)
  5. น้ำตาลปี๊บหรือน้ำตาลทรายหนนี้ใช้ชิมเอาค่ะเพราะอยากให้หวานน้อย  (เพิ่มลดได้ตามชอบ)
  6. มะพร้าวอ่อน (ไม่ใส่ก็ได้)
  7. กลิ่นกะทิและกลิ่นมะพร้าวอย่างละ 1/2 ช้อนชา

บดกล้วยน้ำว้าด้วยที่บดมันฝรั่ง


ผสมแป้ง เกลือ น้ำตาลและนมถั่วเหลืองคนให้เข้ากันหยอดใส่ถ้วย ตั้งน้ำในซึ้งให้เดือดจัดนึ่งประมาณ 15-20นาที


สุกแล้วค่ะ ร้อนๆ เลยควันฉุย


แกะกระดาษออกทำเก็บไว้ทานได้หลายวัน ถ้าห่อใบตองจะหอมใบตองขึ้นนะคะ

        ตรงส่วนของนมถั่วเหลืองสามารถใช้กะทิหรือนมสดแทนได้ค่ะ ที่แป้งใช้นมถั่วเหลืองเพราะว่าอย่างอื่นหมดไม่อยากออกไปซื้อค่ะอยากทานขึ้นมากระทันหันทำเลยทันทีคนๆ ตีๆ เอาขึ้นนึ่งปุ๊บเดียวเสร็จ ^_^

เค้กอัลมอนด์ไข่ขาว สำหรับคนที่แพ้แป้งสาลี gluten-free

                ถึงเวลาทำขนมให้คุณพ่อทานแล้วค่ะ หนนี้เป็นเค้กนะไม่ต้องปรับอะไรเลยค่ะ เพราะได้สูตรที่ไม่ใช้แป้งสาลีอยู่แล้วสูตรมาจากบล็อกพี่ปุ๊ก dailydelicious สูตรนี้ใช้แป้งข้าวเจ้าแทนแป้งสาลีเลยค่ะ

                เมนูนี้ชื่อว่า Apricot Financier (Gluten Free) มาจากหนังสือ スーパーパティシエ辻口博啓のやさしいお菓子 ของ辻口 博啓 (Hironobu Tsujiguchi) ค่ะ อยากได้สูตรแบบนี้อีกเยอะๆ เพราะหลายครั้งที่แป้งแปลงสูตรเองมันออกมาไม่ได้เรื่องค่ะต้องปรับทำแก้ใหม่หลายครั้งมากกกก 555 



ตามที่พี่ปุ๊กบอกสูตรเล็กมากๆ แป้งทำเพิ่มจากสูตร 3 เท่าเลยค่ะ (แต่จำไม่ได้ว่าได้กี่ชิ้น ^^~)

แป้งข้าวเจ้า                                  16 กรัม
อัลมอนด์ป่น (ไม่เอาเปลือกออก) 16 กรัม (บดรวมกันกับแป้งข้าวจ้าว)
ไข่ขาว                                           40 กรัม
น้ำตาลทรายป่น                             40 กรัม
เนยละลาย                                     40 กรัม
กลิ่นวนิลลา                                   1/2 ช้อนชา
กลิ่นวนิลลา                                   1/2 ช้อนชา
แอพริคอต (ไม่ได้ใส่ค่ะ)

เปิดเตาอบที่170 องศาไว้ให้พร้อม!!


ร่อนแป้งข้าวเจ้ากับอัลมอนด์ป่นรวมกันค่ะ


ส่วนที่ยังไม่ละเอียดก็เอามาบดต่อ (ใช้ Almond Powder ก็สะดวกดีนะคะ)


ตีไข่ขาวกับน้ำตาลทรายป่นและวนิลลาเข้าด้วยกันจนข้นขาว ค่อยๆ ใส่แป้งกับอัลมอนด์ทีร่อนรวมกันแล้วลงไป


คนให้เข้ากัน เทเนยละลายลงไปแล้วใช้พายยางตะล่อมให้เเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ตักใส่ถ้วยคัพเค้กจนเกือบเต็มค่ะ


เอาเข้าอบ 20 นาทีหรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับเตาอบของแต่ละบ้านนะคะ (สีเหลืองทองสวยเชียว)


เค้กตัวนี้ทำไม่ยากไม่ต้องใช้เครื่องตี แค่มีไม้พายมีตะกร้อมือก็ทำได้แล้ว

             เอาออกมาจากเตาร้อนๆ ตักชิมเลยค่ะ หอมอร่อยชอบแบบนี้หล่ะไม่ต้องใส่ผลไม้แห้งเลย รสชาติหวานแ้ล้วนะคะ ถ้าไม่ชอบหวานลดน้ำตาลได้ินิดหน่อยค่ะ (แต่ถ้าชอบก็ใส่แอพริคอต ลูกเกดหรือแครนเบอรี่ก็ได้ค่ะ) คุณพ่อก็ถูกใจมากเค้กไม่มีครีมแบบนี้อร่อยแต้ อร่อยล้ำเลยหล่ะ

Bon Appitit อร่อยๆ ค่ะ

วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รอยัลไอซิ่งคุกกี้ ของขวัญของชำร่วยที่กินได้

              แป้งทำไอซิ่งคุกกี้โดยเริ่มจากดูตัวอย่างในอินเตอร์เน็ตค่ะ จากนั้นก็อุุดหนุนหนังสือพี่หมอพรต้มยำทะเล ได้เทคนิคเพียบเลยหนังสือพี่หมอพรมีรายละเอียดอุปกรณ์และขั้นตอนเป็นรูปอย่างละเอียดเลยค่ะใครชอบแนวนี้ไปซื้อกันได้นะ ^^ เล่มนี้ค่ะ ชื่อหนังสือ ตกแต่งหน้าเค้ก ด้วยน้ำตาลรอยัลไอซิ่ง และฟองดองท์


        เอางานมาให้ดูคร่าวๆ ก่อน กำลังห่อคุกกี้เพื่อส่งทางไปรษณีย์อยู่ค่ะ ใช้ทั้งบับเบิ้ลและกล่องพลาสติกเพื่อกันกระแทก
 

 งานแป้งส่วนใหญ่เป็นงานเส้นงานเขียนตัวหนังสือค่ะไม่ได้ถมเต็มทั้งชิ้น


ชอบงานนี้ค่ะฟอนต์ตัวหนังสือแนวอเมริกันสไตล์




2 รูปนี้เป็นงานจับคู่ชื่อกับหน้าอีโมของขวัญที่ลูกค้าสั่งทำวันวาเลนไทน์

               มามะมาดูสูตรกันต่อโชว์รูปมาหลายรูปละ เริ่มจากตีโดว์คุกกี้แล้วนำไปพักไว้ในตู้เย็น เอาออกมารีดแล้วอบใช้เวลาตามสูตรจากนั้นก็เริ่มตีรอยัลไอซิ่งได้ (ดูงานของเราด้วยค่ะ ว่าเป็นงานเขียน งานถมให้เต็มหรืองานแบบไหนจะได้กะความเหลวความเข้มข้นของตัวไอซิ่งได้ถูกต้อง)

สูตรรอยัลไอซิ่ง (ปรับได้ตามงานนะคะ ถ้าทำน้อยชิ้นลดสูตรลงได้ครึ่งนึงค่ะ)

ไข่ขาว 2 ฟอง
ครีมออฟทาร์ทาร์ 1 ช้อนชา (ไม่มีให้ใช้น้ำมะนาวแทนได้ค่ะ)
น้ำตาลไอซิ่ง 200-400 กรัม (ขึ้นอยู่กับงานที่ออกแบบไว้)
แป้งอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ


           ตีไข่ขาวจนเริ่มมีฟองหยาบใส่ครีมออฟทาทาร์ลงไปจากนั้นค่อยๆ ใส่น้ำตาลไอซิ่งลงไปทีละน้อยตีต่อไปจนหมด ขั้นตอนต่อไปใส่แป้งอเนกประสงค์ตีต่อจนได้ที่ค่ะ
 จากนั้นก็แบ่งใส่ถ้วยและผสมสีค่ะ (หลังจากที่ลงสีเสร็จแล้วแป้งต้องการยืดอายุคุกกี้ด้วยการใส่เตาอบอีกครั้งค่ะ อบไฟ 100-120 องศา ใช้เวลาประมาณ 10 นาที)



 

ยกตัวอย่างสีที่ผสมออกมา ขาว แดง ดำ ส้ม เขียว


งานนี้ลูกค้าบริษัทขายยาจ้างให้ทำคล้ายเม็ดยาแจกที่ศิริราชค่ะ


บอกความในใจกันผ่านคุกกี้ (อ่านออกไหมคะ) งานนี้ทำให้รับรู้ว่าเขียนเป็นภาษาไทยยากกว่าเขียนภาษาอังกฤษมากๆ


งานล่าสุดลูกค้าจ้างให้ทำนกฮูกตาโตแป๋วแหวว ตอนยังไม่ลงสีคล้ายลูกเจี๊ยบเนาะ


ลงสีขนแล้วเป็นไงคะเหมือนมั้ย >.,< 


อะแด๊บมาทำได้อีกหลายงานเลยค่ะอย่างเช่นงานนี้ แต่งเค้กด้วยรอยัลไอซิ่งบนเค้กกล้วยน้ำว้าขนาด 3 ปอนด์ แต่งบนเนื้อเค้กเลยค่ะื ลูกค้าไม่ชอบทานบัตเตอร์ครีม


บีบแมวเหมียวเอาไว้แต่งเค้กหน้านิ่ม เค้กส้ม เค้กช็อคโกแลต (แต่ห้ามเข้าตู้เย็นนะคะเพราะจะละลายเหลวผิดรูป)


ใช้รอยัลไอซิ่งร่วมกับฟองดองแต่งบนคัพเค้กค่ะ บีบรอยัลไอซิ่งแยกไว้เป็นส่วนๆ บีบกุหลาบ บีบดอกไม้ บีบชื่อย่อบนคุกกี้จากนั้นนำมาประกอบกันเป็นของแต่งคัพเค้ก

           งานแบบนี้ต้องใจเย็นและฝึกฝนบ่อยๆ ค่ะมือถึงจะนิ่ง ที่สำคัญรอให้รอยัลไอซิ่งแห้งเ็ซ็ตตัวให้ดีก่อนนะคะก่อนที่จะนำมาใช้งาน รสชาติของรอยัลไอซิ่งก็จะหวานๆ ค่ะหอมมะนาวนิดนึง(ถ้าใส่มะนาว) แต่ถ้าชอบกลิ่นก็ใส่กลิ่นมะลิ กลิ่นมะนาวเพิ่มลงไปอีกได้เช่นกันค่ะ

วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

French Toast คาวหวานขนมปังชุบไข่

            เมื่อกลางเดือนที่แล้วเพื่อนสาวแวะมาเยี่ยมบ้านค่ะเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดเลยตั้งแต่มัธยมปลาย เจอกันทั้งทีก็คุยกันสารพัดเรื่องค่ะช่วงหลังก่อนกลับคุยกันเรื่องทำอาหารเช้าที่เรื่องไม่เยอะแล้วอร่อยดูหรู แป้งนึกถึง French Toast เลยค่ะทำได้ทั้งแบบคาวแบบหวานสัญญากับเจนไว้ว่าจะหาวิธีทำให้ วันก่อนเพิ่งทำขนมปังนึกอยากทานบ้างก็เลยลงมือถ่ายรูปค้นวัตถุดิบในตู้เย็นแล้วทำเดี๋ยวนั้นเลย ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาทีก็เสร็จ


           มาดูหน้าตาทำความรู้จักกันหน่อยค่ะ

           French Toast คืออะไรเค้าคือขนมปังชุบไข่นั่นเองงงงง เราสามารถใช้ขนมปังเนื้อนุ่ม ขนมปังไข่ ขนมปังมันฝรั่ง ขนมปังฟักทอง ขนมปังโฮลวีตโฮลเกรนได้ทั้งนั้นแล้วแต่ความชอบเลยค่ะ (แป้งเคยใช้ขนมปังที่ทานไม่หมดเก็บไว้ในช่องฟรีซก็ยังอร่อย >_<)

วัตถุดิบยืดหยุ่นได้ หลักๆ มีประมาณนี้ค่ะ
ขนมปังกี่แผ่นก็ได้ตามขนาดกระเพาะ (วันนี้แป้งใช้ขนมปังโฮลวีตเนื้อแข็งแน่น 3 แผ่น)
ไข่ (แป้งใช้ 1 ฟองค่ะ)
*ออฟชั่นเสริมของหวาน น้ำผึ้ง ผลไม้เช่น กล้วยหอม สตอเบอรี่ ส้ม กีวี  น้ำตาลทราย โอวัลติน ถั่ว แยม ไอศกรีม วิปครีม ครีมชีส เนย ช็อคโกแลตชิพ
**ออฟชั่นเสริมของคาว ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก แฮม ไส้กรอก ชีส เบคอน น้ำสลัด มายองเนส
สามารถเหยาะซอส เกลือ ปรุงรสในไข่ได้ด้วยค่า

       
            เอาล่ะเริ่มเลยค่ะ จับเวลา!!!

    

เตรียมวัตถุดิบ



ตอกไข่


ตีไข่และวางขนมปังลงไปชุบให้ทั่วทั้ง 2 ฝั่ง รอเวลาปล่อยให้ขนมปังดูดซึมไข่เข้าไปสักเล็กน้อย เสร็จแล้วพักไว้


ตั้งกระทะไฟกลางถ้าใช้กระทะเทฟลอนไม่จำเป็นต้องใส่เนยหรือน้ำมัน ถ้าชอบก็ใส่ได้ค่ะจะได้เกรียมๆ
ทอดอย่างใจเย็นไม่ควรกลับด้านขนมปังบ่อย (เดี๋ยวขนมปังช้ำหมด) พอได้กลิ่นหอมแง้มดูสีสวยแล้วกลับด้านพอสุกดีทั้ง 2 ด้านนำขึ้นพักไว้ เตรียมแต่งจาน


แป้งทำทั้งหมด 3 หน้าหวาน 2 หน้าคาว 1 หน้าเลยค่ะอร่อยง่ายทั้งคาวหวาน
แบบหวานโรยด้วยโอวัลติน เมล็ดแฟลกซ์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์
อีกแบบหั่นกีวีราดด้วยน้ำผึ้งตัดรสเปรี้ยวหวาน
แบบคาวแป้งทอดแฮมและเหยาะซอสมะเขือเทศเล็กน้อย


                พร้อมเสิร์ฟทั้งหมดนี้ในเวลาแค่ไม่กี่นาทีแป้งจัดโต๊ะทานข้าวแล้วแบ่งทานกับแม่เป็นมื้อเช้าที่ง่ายแสนง่าย ส่วนพ่อทานขนมปังไม่ได้ทานข้าวต้มร้อนๆ แทนค่ะ

                 แป้งเคยเอาขนมปังชุบไข่แล้วเหยาะซอสมะเขือเทศโดยที่ไม่ใส่เครื่องอื่นๆ เลยทานเปล่าๆ แค่นี้ก็อร่อยค่ะ แถมยังได้กำจัดขนมปังแข็งๆ ในตู้เย็นอีกด้วย

                ทีนี้ก็มีเมนูแนะนำให้เพื่อนได้ละ อร่อยๆ น้าเจน ^3^ จุ๊บ จุ๊บ


ฺQuick & Easy   @>_<@ ความสุขไม่ไกลเกินเอื้อม

วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556

How TO Homemade Fresh Yogurt โฮมเมดโยเกิร์ตทานแล้วฟิน

           
             โยเกิร์ตสดๆ โยเกิร์ตที่ทำด้วยมือเรามันน่าปลื้มใจเนาะ @>_<@  



              อุปกรณ์ทีใช้ไม่มากไม่ยุ่งยาก เริ่มทำช่วงเย็นก่อนนอนคนโยเกิร์ตให้เข้ากับนมตื่นเช้ามาก็ได้กินละช่วงเวลาที่เราไปนอนเป็นช่วงเวลาที่จุลินทรีย์ตั้งหน้าตั้งตาทำงานค่ะ 555

สิ่งที่ต้องเตรียม
นมรสจืด (ไขมมันต่ำ สูตรปกติ หรือสูตรเพิ่มหอมมันก็ได้)
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ (แบบไขมัน 0% แบบปกติก็ได้แต่ขอเป็นรสธรรมชาตินะคะหรือจะใช้กรีกโยเกิร์ตก็ได้ยิ่งทำให้โยเกิร์ตของเราเข้มข้น) 
ครั้งต่อไปสามารถแบ่งเก็บโยเกิร์ตที่เราทำไว้เป็นหัวเชื้อต่อไปได้ สัก 3 ครั้งค่ะพอทำครบก็ค่อยซื้อมาใหม่ 1 ถ้วยทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ใครที่ชอบทานโยเกิร์ตจะมีความสุขมากเพราะราคากับจำนวณถ้วยที่ทำกินได้มันคุ้มมากกกก
หม้อสะอาด
ทัพพี
ถ้วยขนาดเล็ก
*** รวมราคาประมาณ 50 บาททำกินได้ 10 ถ้วย (ถ้วยใหญ่ด้วยนะ) ใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติน้า (ยังไม่รวมราคาโยเกิร์ตที่เป็นสารตั้งต้นนะคะ)
                ดูรูปแล้วทำไปพร้อมๆ กันได้เลยค่ะ ถ่ายมาทุกขั้นตอนเลย



นมจืดยี่ห้ออะไรก็ได้ค่ะถ้าใช้แบบพร่องมันเนยโยเกิร์ตที่เราทำจะเนื้อเหลวหน่อย ต้องการเข้มข้นใช้นมที่ไขมันเยอะๆ


เทนมลงไปในหม้อนำขึ้นไปตั้งไฟให้เดือด (ต้องเฝ้านะคะเพราะนมเวลาเดือดเค้าจะเดือดเร็วมาก ถ้าไม่ระวังให้ดีจะหกเลอะเทอะฟูล้นไปถึงเตาและนมก็จะหายไปเยอะเลยค่ะ ทำไมถึงรู้หล่ะอย่าถามเลยค่ะมันคืออดีตที่เราไม่อยากจำ T^T)



ตั้งหม้อนมเอาไว้จนหายร้อนให้เย็นสนิทเลยนะคะ ถ้าใส่โยเกิร์ตไปตอนที่นมยังไม่เย็นสนิทความร้อนจะทำให้เชื้อจุลินทรีย์จากโยเกิร์ตตายได้ค่ะ


หยิบโยเกิร์ตออกมาจากตู้เย็น เทใส่ถ้วยอีกถ้วยแล้วใช้ช้อนคนให้โยเกิร์ตเนียนไม่เป็นก้อน ตักนมในหม้อใส่ลงไปเล็กน้อยเพื่อให้คนง่ายขึ้น


เทลงไปในหม้อนม
 

คนให้เข้ากัน (ตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วงเริ่มการทำงานของจุลินทรีย์จะทำปฏิกิริยเปลี่ยนนมให้เป็นยเกิร์ต) ตอนคนนานสักหน่อยให้ไม่เกาะเป็นก้อน


ปิดฝาไว้ แล้วไปนอน (หมายถึงตัวเราไปนอนค่ะ) ส่วนจุลินทรีย์เค้าก็ทำงานต่อ ตั้งไว้ 1 คืนประมาณ 12 ชั่วโมง พรุ่งนี้เช้าสามารถทานได้เลย(ความเปรี้ยวกำลังดีเลยค่ะแต่ถ้าชอบทานเปรี้ยวอยากให้เปรี้ยวมากกว่านี้ทานตอนเย็นหรือวันรุ่งขึ้นนะคะ)


เช้าแล้ววววว ไวเหมือนโกหกเห็นมั้ยคะ เห็นความข้นมั้ย


พอได้แบบนี้แล้วเก็บใส่ตู้เย็นได้เลยค่ะ 1 หม้อเก็บได้ 7 วันเป็นอย่างต่ำ ถ้าทานทุกวันทานหลายคนไม่กี่วันก็หมดค่ะ

ทวนขั้นตอนอีกรอบนะคะ
ต้มนมจนเดือด -> ตั้งไว้ให้เย็น -> ใส่โยเกิร์ตในนม -> คนให้เข้ากัน -> ตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง 12 ชั่วโมง -> ทาด้า!! แล้วก็กลายเป็นโยเกิร์ต (พอใกล้หมดล็อตนี้ก็สามารถแบ่งโยเกิร์ตมาวนลูปได้อีกค่ะ วนลูปสักสองสามรอบ)





ดูรูปครั้งก่อน ใช้นมแบบไม่พร่องไขมันเนยสังเกตเนื้อจะแข็งกว่า
ตักให้ดูว่าเข้มข้นขนาดไหน พร้อมกินเมื่อไหร่ก็ใส่น้ำผึ้ง ไม่ก็แยม ไม่ก็ซีเรียล บางทีก็แช่ช่องฟรีซทำเป็นไอติม 

โฮมเมดโยเกิร์ตประหยัด ไขมันต่ำ ไม่มีส่วนผสมของนมผง ฟินาเล่มั้ยล่าาาา~~~

ป.ล.เพิ่มเติมเพิ่งนึกขึ้นได้ ตัวที่ทำให้เปลี่ยนจากนมเป็นโยเกิร์ตคือจุลินทรีย์หรือแบคทีเรีย?? อ่าาา
หลังจากลงวิธีทำโยเกิร์ตแล้วได้คุยกับ
 เช้า แบคทีเรีย เป็นซับเซ็ทของจุลินทรีจ่ะ งั้นแป้งเขียนว่าจุลิทรีย์ละกันเนอะ ป.ล.2 ขอให้ข้อคิดไว้ตรงนี้ค่ะ แป้งทำโยเกิร์ตเอาไว้ทานและทำเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการทำเค้กกล้วยน้ำว้าโยเกิร์ตด้วย ทุกครั้งที่ทำมักทำใส่หม้อและตักแบ่งมาใช้ใช้หมดค่อนข้างเร็วก็เลยลืมคิดเรื่องการแบ่งภาชนะเพื่อยืดอายุให้ได้นานขึ้น ถ้าเพื่อนๆ ทำโยเกิร์ตทานเองในบ้านขอแนะนำให้ฆ่าเชื้อภาชนะให้สะอาดก่อนค่ะ ภาชนะต้องปิดฝาได้สนิทนะคะ (ที่แป้งให้วนใช้ 3 ครั้งเพราะเคยเกิดเหตุช่วงอากาศร้อนบางครั้งพอทำครั้งที่ 4 หรือ 5 จะเกิดจุดสีขาวหรือแดงแต่ตรงนี้อาจเป็นเพราะแป้งเปิดปิดหม้อบ่อยก็เป็นได้ )